
สวัสดีผู้รักการอ่านชาว DIY ทุกท่าน วันนี้ดี Da.CHOR ขอนำเสนอความรู้รอบตัว เรื่อง!!!!!
สารลดแรงตึงผิว
สารลดแรงตึงผิวแบ่งตามแหล่งที่มาได้ 2 ประเภท คือ สารลดแรงตึงผิวสังเคราะห์และสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ ซึ่งแบ่งย่อยได้อีกดังนี้
สารลดแรงตึงผิวสังเคราะห์
สารลดแรงตึงผิวสังเคราะห์ได้จากปฏิกิริยาทางเคมี นิยมแบ่งเป็น 4 ชนิดตามลักษณะส่วนที่ชอบน้ำของโมเลกุล ได้แก่ สารลดแรงตึงผิวที่มีประจุบวก สารลดแรงตึงผิวที่มีประจุลบ สารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ และสารลดแรงตึงผิวที่มีทั้งประจุบวกและลบ ตัวอย่างเช่น polyoxyethylene sorbitan monooleate (Tween80), polyoxyethylene(23)dodecanol (Brij35), sodium dodecyl sulfate (SDS) และ cetyltrimetylamonium bromide (CTMAB) เป็นต้น
สารลดแรงตึงผิวชีวภาพ
สารลดแรงตึงผิวชีวภาพแบ่งได้เป็น 5 ชนิดตามองค์ประกอบทางเคมีและชนิดของจุลินทรีย์ที่สร้างขึ้น ได้แก่ ไกลโคลิปิด ลิพอเปปไทด์ และลิพอโปรตีน กรดไขมัน ฟอสโฟลิปิด และนิวทรัลลิปิด สารลดแรงตึงผิวที่เป็นพอลิเมอร์ สารลดแรงตึงผิวที่เป็นอนุภาค หรือเป็นเซลล์จุลินทรีย์ทั้งเซลล์ ตัวอย่างสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ ได้แก่ แรมโนลิปิด (rhamnolipid) ผลิตขึ้นได้จาก Pseudomonas sp. เซอแฟกทิน (surfactin) ผลิตจาก Bacillus subtilis อลาซาน (alasan) ผลิตจาก Acinetobacter radioresistens และซาพอนิน (saponin) เป็นสารลดแรงตึงผิวที่ได้จากพืช เป็นต้น
การประยุกต์ใช้งาน
สารลดแรงตึงผิว ถูกใช้งานอย่างกว้างขวาง เป็นตัวช่วยผสมส่วนผสมอื่น ๆ ให้เข้ากันได้ดีขึ้น และถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม อีมัลชั่น สี กาว หมึก น้ำยาไล่หมอก น้ำจับใบสำหรับสารกำจัดศัตรูพืช น้ำยาลดคำผิด เครื่องสำอาง แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน น้ำยาดับเพลิง
Da.chor ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
ขนิษฐา สมตระกูล.2554. บทบาทของสารลดแรงตึงผิวต่อการสะสมสารมลพิษในพืช. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี